วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เปอตีต์ ดุเดือดทาบทาม เนย์มาร์ ไม่ให้ความเคารพ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง



เอ็มมานูเอล เปอตีต์ อดีตยอดกองกลางชาวฝรั่งเศส ตำหนิ เนย์มาร์ กองหน้าคนดังของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ว่าไม่ให้ความเคารพต้นสังกัดและแฟนบอลของทีมแม้แต่นิดเดียว โดย เอ็มมานูเอล เปอตีต์ กล่าวว่า

"สมัยที่ผมเล่นร่วมกับ (ซีเนดีน) ซีดาน หรือ (ยูริ) จอร์เกฟฟ์ น่ะนะ ผมรู้ดีว่าพวกเขาเก่งถึงขนาดที่จะสามารตัดสินเกมด้วยตัวของพวกเขาเองได้ ดังนั้นเราทุกคนเลยรับได้ที่พวกเขาไม่มาช่วยเล่นเกมรับ เรายอมรับเรื่องนั้น และทำงานของเรา เพราะเรารู้ดีว่าพวกเขาคือคนที่จะช่วยให้ทีมชนะด้วยการเล่นแบบอัจฉริยะได้ กรณีของ เนย์มาร์ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย หมอนี่แค่เล่นเพื่อตัวเอง และทำเพื่อตัวเองเท่านั้น"


ผอ.กีฬา ยูเวนตุส ยันไม่สนใจดึง อิวาน ราคิติช มาร่วมทัพ



ฟาบิโอ ปาราติชี่ ผู้อำนวยการกีฬาของ ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กล่าวว่าทีมของตนไม่ได้สนใจที่จะดึง อิวาน ราคิติช กองกลางประสบการณ์สูงของ บาร์เซโลน่า มาร่วมทัพเหมือนที่มีข่าวลือออกมาแต่อย่างใด โดย ฟาบิโอ ปาราติชี่ กล่าวว่า

"เรามีทีมที่ยอดเยี่ยม และไม่ได้กำลังคิดที่จะเสริมทัพใดๆ ทั้งนั้นในตอนนี้ ทุกตำแหน่งของเราต่างก็แข็งแกร่งสุดๆ จริงอยู่ว่า ราคิติช เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่เราไม่ได้ให้ความสนใจในตัวเขาเลย"


วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562

แมนซิตี้ จัดทัพบุกวัดแข้ง นิวคาสเซิ่ล



แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงตัวเก่งร่วมทัพเหตุบาดเจ็บแต่ยังมี ราฮีม สเตอร์ลิง นำปิดสกอร์เก็บชัยลุ้นแซงขึ้นรองจ่าฝูงเกมพบ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 30 พ.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 และ ID Station, เวลา : 19.30 น.

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นิวคาสเซิ่ล   -  แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 และ ID Station, เวลา : 19.30 น.

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค

สตีฟ บรูซ กุนซือ นิวคาสเซิ่ล พาทีมแพ้ แอสตัน วิลล่า 0-2 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรก ในรอบ 4 เกม สภาพทีมเกมนี้ บรูซ จะได้ ฌอน ลองสตาฟฟ์ พ้นโทษแบนกลับมาเสริม นอกจากนั้น ไม่มีปัญหาอะไร รบกวนเพิ่มเติม ขาดแค่ จามาล ลาสเซลล์ส กัปตันทีม ที่เจ็บเข่าอยู่ก่อนแล้ว และต้องพักยาวรายเดียว แกนหลักหน้าเดิมๆ อย่าง เดอันเดร เยดลิน, มิเกล อัลมิรอน, อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง และ โชลินตอน ยังพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ พาทีมชนะ เชลซี 2-1 ในเกมล่าสุด ก่อนเสมอชัคตาร์ โดเนตส์ค 1-1 ในเกมยุโรป ทำให้ไม่แพ้มา 2 เกมแล้ว ความพร้อมเกมนี้เป๊ปจะไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'', โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และ ลีรอย ซาเน่ ที่บาดเจ็บทั้งหมด  

ส่วนแกนหลักบางรายอย่าง จอห์น สโตนส์ และ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ที่ได้พักเมื่อมิดวีกก็น่าจะคัมแบ็กตามปกติ แนวรุกวาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง และ กาเบรียล เชซุส ประสานงาน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

นิวคาสเซิ่ล (5-4-1) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - เดอันเดร เยดลิน, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, เคียแรน คล้าร์ก, พอล ดัมเม็ตต์, เยโตร วิลเล่มส์ - มิเกล อัลมิรอน, ไอแซ็ค เฮย์เด้น, จอนโจ เชลวี่ย์, อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง - โชลินตอน  
ผู้จัดการทีม : สตีฟ บรูซ  
         
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, แฟร์นันดินโญ่, เบนฌาแม็ง เมนดี้ - โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง - กาเบรียล เชซุส
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

- แมนฯ ซิตี้เอาชนะได้ 23 จาก 27 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- แมนฯ ซิตี้มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ถึง 12 จาก 14 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- แมนฯ ซิตี้ยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูถึง 12 จาก 14 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ตลอด 3 นัดหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกันรวมทุกรายการ
- นิวคาสเซิ่ลไม่แพ้เลยตลอด 5 นัดเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก

ผลการพบกันที่ผ่านมา

วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน  
30/01/19    พรีเมียร์ลีก    นิวคาสเซิ่ล    2-1 แมนฯ ซิตี้
01/09/18    พรีเมียร์ลีก    แมนฯ ซิตี้    2-1 นิวคาสเซิ่ล
21/01/18    พรีเมียร์ลีก    แมนฯ ซิตี้    3-1 นิวคาสเซิ่ล
28/12/17    พรีเมียร์ลีก    นิวคาสเซิ่ล    0-1 แมนฯ ซิตี้
20/04/16    พรีเมียร์ลีก    นิวคาสเซิ่ล    1-1 แมนฯ ซิตี้
03/10/15    พรีเมียร์ลีก    แมนฯ ซิตี้    6-1 นิวคาสเซิ่ล
ผลงาน 5 นัดหลังสุด

นิวคาสเซิ่ล
25/11/19    แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
09/11/18    ชนะ บอร์นมัธ 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
02/11/19    ชนะ เวสต์แฮม 3-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
27/10/19    เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
19/10/19    แพ้ เชลซี 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

แมนฯ ซิตี้
26/11/19    เสมอ ชัคตาร์ โดเนตส์ค 1-1 (เหย้า) ชปล.
24/11/19    ชนะ เชลซี 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
10/11/19    แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
06/11/19    เสมอ อตาลันต้า 1-1 (เยือน) ชปล.
02/11/19    ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

เชลซี เตรียมเปิดบ้านขาดตัวหลักรับคม เวสต์แฮม


เชลซี คาดจะไม่มี แทมมี่ อบราฮัม ที่บาดเจ็บจากเกมล่าสุดโดยฝากความหวังไว้ที่ คริสเตียน พูลิซิช ปิดสกอร์คว้าสามแต้มเกมรับคม "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ที่จะสู้เพื่อหนีโซนท้ายตาราง ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 30 พ.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier HD 3 , เวลา : 22.00 น.

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชลซี   -   เวสต์แฮม วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ถ่ายทอดสด : True Premier HD 3 , เวลา : 22.00 น.

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี พาทีมแพ้แมนฯ ซิตี้ 1-2 ในเกมล่าสุด ก่อนเสมอบาเลนเซีย 2-2 ในเกมยุโรป ทำให้ไม่ชนะมา 2 เกมแล้ว ความพร้อมเกมนี้ ''แลมพ์ส'' จะไม่มี แทมมี่ อบราฮัม กองหน้าตัวเก่งที่เจ็บสะโพกมาจากเกมล่าสุดค่อนข้างจะแน่นอนแล้ว โดย มิชี่ บัตชูอายี่ จะมีโอกาสลงพิสูจน์ตัว

ส่วน คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค และ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่บาดเจ็บยังชวดทั้งหมด ฝั่ง มานูเอล เปเยกรีนี่ กุนซือเวสต์แฮมพาทีมแพ้สเปอร์ส 2-3 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้ 3 นัดติด

ความพร้อมล่าสุด ''เปเย'' จะไม่มี อิสซ่า ดิย็อป กองหลังตัวหลักที่ติดโทษแบน หลังสะสมใบเหลืองครบโควตา ส่วนแกนหลักรายอื่นๆ ยังพร้อมบู๊เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, มาร์ค โนเบิล, ฟิลิเป้ อันแดร์ซอน และ เซบาสเตียง อาลแลร์รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - รีซ เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, คูร์ท ซูม่า, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช - วิลเลี่ยน, มิชี่ บัตชูอายี่, คริสเตียน พูลิซิช     ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด 

เวสต์แฮม (4-4-1-1) : โรเบร์โต้ - ไรอัน เฟรเดอริกส์, ฟาเบียน วัลบูเอน่า, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อารอน เครสเวลล์ - อังเดร ยาร์โมเลนโก้, มาร์ค โนเบิล, เดแคลน ไรซ์, ฟิลิเป้ อันแดร์ซอน - โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ - เซบาสเตียง อาลแลร์ ผู้จัดการทีม : มานูเอล เปเยกรีนี่

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

- เชลซีมีผลเสมอในครึ่งแรก และชนะตอนจบเกมตลอด 3 นัดเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- เชลซีไม่แพ้เลยตลอด 14 นัดหลังสุดที่เปิดบ้านพบเวสต์แฮมรวมทุกรายการ
- เวสต์แฮมเสียอย่างน้อย 3 ประตูต่อเกมตลอด 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- เวสต์แฮมมีสกอร์ตามหลังในครึ่งแรก และแพ้ตอนจบเกมตลอด 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- เชลซีเก็บคลีนชีตได้ตลอด 3 นัดเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- มีสกอร์รวมต่ำกว่า 2.5 ตลอด 4 นัดหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกันรวมทุกรายการ
- เวสต์แฮมแพ้ถึง 5 จาก 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- เชลซีไม่แพ้ถึง 14 จาก 15 นัดเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- เชลซีมีสกอร์รวมต่ำกว่า 2.5 ตลอด 3 นัดเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- เวสต์แฮมมีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ตลอด 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก

ผลการพบกันที่ผ่านมา

วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน
09/04/19    พรีเมียร์ลีก    เชลซี 2-0 เวสต์แฮม
23/09/18    พรีเมียร์ลีก    เวสต์แฮม 0-0 เชลซี
08/04/18    พรีเมียร์ลีก    เชลซี 1-1 เวสต์แฮม
09/12/17    พรีเมียร์ลีก    เวสต์แฮม 1-0 เชลซี
07/03/17    พรีเมียร์ลีก    เวสต์แฮม 1-2 เชลซี
27/10/16    ลีก คัพ    เวสต์แฮม 2-1 เชลซี

ไม่ไปไหน ร็อดเจอร์ส ยันยังมุ่งมั่นให้กับ เลสเตอร์ ต่อไป


เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรแกร่งแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตอนนี้ตนสนใจเฉพาะการทำงานกับ "สุนัขจิ้งจอก" เท่านั้น ไม่ได้คิดถึงความเป็นไปได้ที่จะไปคุม อาร์เซน่อล แต่อย่างใด  ร็อดเจอร์ส ตกเป็นข่าวลือกับเก้าอี้กุนซือ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ตอนที่ อูไน เอเมรี่ ยังเป็นผู้จัดการทีม "ไอ้ปืนใหญ่" แล้ว หลังจากทำผลงานได้โดดดเด่นกับ เลสเตอร์ ในฤดูกาลนี้ และพอ เอเมรี่ โดนไล่ออกไปแล้วนั้น กระแสข่าวระหว่างกุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือกับยอดทีมแห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็รุนแรงขึ้นไปอีก โดย เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กล่าวว่า

"ถ้าคุณทำผลงานได้โอเคแล้วน่ะ หลายคนก็อยากจะพรากคุณไปจากสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกเป็นธรรมดา ส่วนถ้าคุณทำผลงานได้ไม่ดี มันก็ไม่ถือว่าสำคัญอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มทำบางอย่างกับที่นี่ ความสัมพันธ์ของผมกับคนของที่นี่และกับนักเตะมันเหนียวแน่นมากๆ เราคิดว่าเรากำลังเริ่มทำบางอย่างที่น่าตื่นเต้นร่วมกันอยู่"

ซีดาน ยันยังไม่ปล่อย วินิซิอุส จูเนียร์ ทอดตลอด


ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด สดมสรยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีกา สเปน กล่าวว่าตนจะไม่ปล่อย วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าชาวบราซิเลียนออกจากทีมในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบสอง ในช่วงเดือนมกราคมนี้แน่นอน วินิซิอุส เพิ่งได้มาร่วมงานกับ เรอัล เมื่อปีก่อน หลังจากทำข้อตกลงเรื่องย้ายทีมไปตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ซึ่งฤดูกาลที่แล้วเขาก็ได้ลงเล่นในลีกไป 18 นัด แต่ในซีซั่นนี้เพิ่งได้ลงสนามในลีกเพียง 8 เกม แถมยังเป็นในฐานะตัวจริงแค่ 4 หน จนทำให้พักหลังมีข่าวลือว่าเขาอาจจะโดยปล่อยออกจากทีมด้วยสัญญายืมตัวในเดือนแรกของปี 2020 โดย ซีเนดีน ซีดาน กล่าวว่า

"วินิซิอุส ไม่ได้จะย้ายไปไหน เขาจะอยู่กับที่นี่ต่อไป มันก็แค่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาของเขา แต่เวลาของเขาจะมาถึงแน่นอน ผมมีนักเตะให้เลือกใช้งานถึง 26 คน และผมก็ต้องตัดชื่อบางคนออกจากทีม อย่างที่ผมบอกไปว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาของเขา"

ผอ.กีฬา ดอร์ทมุนด์ ยืนยัน ซานโช ยังไม่ไปไหนแน่นอน


มิชาเอล ซอร์ก ผู้อำนวยการกีฬาของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรดังแห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน ยืนยันว่า ช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้ จาดอน ซานโช ปีกดาวรุ่งคนเก่งของทีม จะไม่ย้ายไปไหนอย่างแน่นอน ตลอดช่วงสัปดาห์นี้ ซานโช มีข่าวอย่างต่อเนื่องว่า ไม่ค่อยจะมีความสุขกับชีวิตการค้าแข้งในถิ่น ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค แถมยังมาประชุมทีมสาย จนถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ "เสือเหลือง" บุกไปแพ้ บาร์เซโลน่า 1-3 เมื่อวันพุธที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา

เดมเบเล่ แข้ง บาร์ซ่า เจ็บพักยาวรอลุยศึกปีหน้า


บาร์เซโลน่า ยอดสโมสรลูกหนังในศึก ลา ลีกา สเปน ประกาศยืนยัน เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า อุสมาน เดมเบเล่ ปีกความเร็วสูงชาวฝรั่งเศส จำเป็นต้องพักแข้งเป็นเวลาราว 10 สัปดาห์ เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาขวา เดมเบเล่ ได้รับบาดเจ็บมาจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ บาร์ซ่า เปิดรัง คัมป์ นู พิชิต โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-1 เมื่อวันพุธที่ 27 พ.ย. และล่าสุดเป็นที่ยืนยันแล้วว่า ดาวเตะวัย 22 ปี จะต้องร้างสนามนานร่วมๆ 2 เดือนครึ่งเลยทีเดียว


ดาวิด ลุยซ์ เปิดใจหลัง อูไน เอเมรี่ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง



ดาวิด ลุยซ์ กองหลังชาวบราซิเลียนของ อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อว่า นักเตะทุกคนในทีมจำเป็นต้องรับผิดชอบร่วมกัน สำหรับการที่ อูไน เอเมรี่ ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ประกาศเด้ง เอเมรี่ พ้นเก้าอี้กุนซือ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่ทีมมีผลงานย่ำแย่ ด้วยการที่ไม่ชนะใครเลยใน 7 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ (เสมอ 5 แพ้ 2) พร้อมกับดันผู้ช่วยกุนซือที่เป็นตำนานของสโมสรอย่าง เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก ขึ้นมาคุมทีมแทนแบบชั่วคราว โดย ดาวิด ลุยซ์ ออกมากล่าวว่า

"ถือเป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกเราที่ทำให้บอส (เอเมรี่) ต้องผิดหวัง ขอโทษด้วยจริงๆ ขอขอบคุณจากใจจริงสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง คุณเป็นคนที่ทำงานหนัก, หลงไหลในฟุตบอล และเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมเสมอ"

ใกล้หมดสัญญา เป๊ป เผยปัจจัยที่จะอยู่ต่อไปหรือไม่


โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนพร้อมที่จะต่อสัญญากับทีม หลังจากข้อตกลงฉบับปัจจุบันจะหมดอายุลงในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2021 กวาร์ดิโอล่า เข้ามากุมบังเหียน แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2016 ซึ่งถ้าเขาอยู่จนครบสัญญามันก็จะทำให้ "เรือใบสีฟ้า" เป็นทีมที่เขาทำงานให้มากที่สุดในอาชีพการคุมทีม มากกว่า บาร์เซโลน่า 1 ปี และเยอะกว่า บาเยิร์น มิวนิค 2 ปี หลังจากโดนถามว่าเขาสนใจที่จะขยายสัญญากับทีมหรือไม่นั้น โจเซป กวาร์ดิโอล่า กล่าวว่า

"ใช่ ผมเปิดโอกาสสำหรับเรื่องนั้น (การต่อสัญญากับทีม) ผมรู้สึกดีมากๆ ในการทำงานร่วมกับสโมสรแห่งนี้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันด้วยล่ะนะ ถ้าคุณอยู่กับทีมใดทีมหนึ่งได้นานถึง 5 ปีมันก็เป็นเพราะทีมของคุณมีผลการแข่งขันที่ดี เราจะรอดูกันว่าในฤดูกาลนี้กับซีซั่นหน้ามันจะเป็นยังไง"

ซลาตัน ยันทัพ เอซี มิลาน เป็นบ้านหลังที่สอง



ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าคนดัง กล่าวว่าเมืองมิลานถือเป็นบ้านหลังที่สองของตน ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า เอซี มิลาน ยอดสโมสรแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กำลังเป็นทีมที่มีโอกาสดีที่สุดที่จะได้เขาไปร่วมทัพ สาเหตุที่ทำให้ มิลาน ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะได้เจ้าตัวไปร่วมทัพนั้น เป็นเพราะว่ากันว่าฝั่ง "รอสโซเนรี่" ถึงขั้นเจรจากับ มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของ อิบราฮิโมวิช และมีการยื่นสัญญาให้ไปแล้ว ขณะที่ เฮเลน่า เซเกอร์ ภรรยาของแข้งวัย 38 ปี ก็ชื่นชอบเมืองมิลานมากๆ เหมือนกัน


แฟร้งค์เฟิร์ต บุกถล่มทัพ อาร์เซน่อล คาบ้าน 2-1



อาร์เซน่อล อาการน่าเป็นห่วงหลังพาต้นสังกัดเปิดบ้านปราชัยให้ แฟร้งค์เฟิร์ต 1-2 โดยนัดนี้ ไดชิ คามาดะ หวดคนเดียวสองตุง ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2019/20 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2019/20 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ) อาร์เซน่อล 1   -   2 แฟร้งค์เฟิร์ต วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

เริ่มเกมมา นาทีที่ 11 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นบวกสกอร์จากจังหวะขึ้นโขกของ โจ วิลล็อค แต่โดนไม่ดีบอลหลุดออกข้างเสาประตูไป ดูเหมือนว่า วิลล็อค จะไม่ให้เสียงกับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ที่พยายามขึ้นโขกเช่นกัน นาทีที่ 16 เจ้าบ้านหวิดได้ประตูขึ้นเมื่อได้ลูกเตะมุมแข้ง แฟร้งค์เฟิร์ต พยายามโหม่งเคลียร์แต่บอลดันมาเข้าทาง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ วิ่งเข้ามาแปด้วยเท้าขวาไม่ถึง 10 หลาแต่ยังไม่ผ่านมือ เฟรเดอริก รอนนอฟ ที่โชว์ป้องกันไว้ได้

ทัพปืนโตยังบุกต่อเนื่องเพียงแค่นาทีถัดมาได้เสียวอีกหน ชโคดราน มุสตาฟี่ ได้โขกเต็มหัวแต่คราวนี้ถูกแข้งทีมเยือนโหม่งสะกัดออกมาจากเส้นประตูได้อย่างเหลือเชื่อ นาทีที่ 21 อาร์เซน่อลได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายเป็น กรานิต ชาก้า เปิดยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษแฟร้งค์เฟิร์ตแข้งทีมเยือนโดดขึ้นโหม่งพยายามเคลียร์บอลแต่โดนเหลี่ยมไม่ดีทิศทางทำท่าจะเข้าประตูแต่ เฟรเดอริก รอนนอฟ ยังไม่พลาดลอยตัวออกมาปัดไว้ได้

เลยมาถึงนาทีที่ 29 บูคาโย่ ซาก้า เกือบจดสกอร์แรกของเกมให้อาร์เซน่อลเมื่อหลุดเดียวขึ้นไปทางฝั่งขวาเข้าไปพยายาชิพบอลผ่านตัว รอนนอฟ แต่ไม่พ้นนายด่านแฟร้งค์เฟิร์ตที่รับงานหนักในครึ่งชั่วโมงแรกป้องกันประตูได้อีกครั้ง สองนาทีถัดมาอาร์เซน่อลเปลี่ยน ดาวิด ลุยซ์ ออกเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บจากจังหวะการปะทะโดยส่ง มัตเตโอ เกนดูซี่ ลงมาเล่นแทน
    
นาทีที่ 38 แฟร้งค์เฟิร์ต ตอบโต้กลับมาบ้าง  ดานนี่ ดา กอสต้า พาบอลขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะเปิดยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษปืนใหญ่แต่ไม่ผ่านแผงหลังเจ้าถิ่นที่ล้มตัวตัดบอลออกไปได้ นาทีที่ 41 เจ้าบ้านพลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ บูคาโย่ ซาก้า หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเน้นๆ ด้วยเท้าซ้ายแต่ก็ยังไม่ผ่าน เฟรเดอริก รอนนอฟ ที่ออกมาปิดมุมไวและป้องกันไว้ได้อีกหน

ช่วงทดเวลานาทีที่ 45+1 อาร์เซน่อลขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะหลุดขึ้นไปเปิดบอลของ  กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ทางริมเส้นฝั่งขวาหักย้อนยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษ บูคาโย่ ซาก้า หวดไม่โดนในจังะหวะแรกทำให้บอลเลยไปเข้าทาง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ที่ยืนประจำการรออยู่ซัดด้วยเท้าขวาเต็มข้อเน้นๆ บอลพุ่งเสยคานบอลก่อนกระดอนลงพื้นเข้าไป

หมดครึ่งแรก อาร์เซน่อล เปิดบ้านนำ แฟร้งค์เฟิร์ต 1-0

 เริ่มครึ่งหลัง ได้เพียงสองนาทีเท่านั้นอาร์เซน่อลได้ลุ้นทำประตูเพิ่มเมื่อ โจ วิลล็อค ได้โอกาสหลุดเข้าไปแปบอลระยะไม่ถึง 10 หลาแต่ไปติดเซฟของ รอนนอฟ ที่เกมนี้โชว์ป้องกันสวยๆ หลายจังหวะ
นาทีที่ 56 แฟร้งค์เฟิร์ต ได้ประตูตีเสมอ 1-1 ดานนี่ ดา กอสต้า จ่ายบอลให้ ไดชิ คามาดะ กระชากไปที่เส้นกรอบเขตโทษก่อนแต่งบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วบรรจงปั่นบอลพุ่งโค้งเสียบเสาไกลสุดจะบรรยาย ดาเมี่ยน มาร์ติเนซ ที่พยายามพุ่งรับแต่ทำได้แค่สุดเอื้อม นาทีที่ 60 อูไน เอเมรี่ ตัดสินใจส่ง เมซุต โอซิล ลงมาแทน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

นาทีที่ 64 กลายเป็นแฟร้งค์เฟิร์ต ได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะลูกเตะมุม ฟิลิป คอสติช เปิดยัดเข้าไปในเขตโทษผู้เล่นอาร์เซน่อลโหม่งเคลียร์ออกมาแต่บอลกระดอนไปเข้าทาง ไดชิ คามาดะ ที่ยืนรออยู่บริเวรเส้นกรอบ 18 หลาพอดีเจ้าตัวจับบอลก่อนหนึ่งจังหวะแล้วกดเต็มข้อบอลพุ่งเบียดโคนเสาเข้าไปอย่างสุดสวย นับเป็นประตูที่สองของ คามาดะ ในเกมนี้อีกด้วย เล่นทำเอาแฟนบอลเจ้าบ้านถึงกับชูป้ายไล่ อูไน เอเมรี่ ผู้จัดการทีมออกเลยทีเดียว

นาทีที่ 76 ปืนใหญ่ส่งแข้งสำรองคนสุดท้ายลงสนาม ลูกัส ตอร์เรยร่า ลงมาเล่นแทน ชโคดราน มุสตาฟี่ ช่วงเวลาที่เหลือ อาร์เซน่อลโหมบุกอย่างหนักหวังทวงประตูคืนแต่ไม่เป็นผล

จบเกม อาร์เซน่อล พ่ายคาบ้านให้กับ แฟร้งค์เฟิร์ต 1-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล (3-4-3) :  ดาเมี่ยน มาร์ติเนซ - โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, ดาวิด ลุยซ์ (มัตเตโอ เกนดูซี่ น.31),  ชโคดราน มุสตาฟี่ (ลูกัส ตอร์เรยร่า น.76) - โจ วิลล็อค, กรานิต ชาก้า, คีแรน เทียร์นี่ย์, คาลั่ม แชมเบอร์ส - บูคาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (เมซุต โอซิล น.60), ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง
สำรองไม่ได้ใช้ : อเล็กซองด์ ลากาแซตต์, แบร์นด์ เลโน่, นิโกล่าส์ เปเป้, รีสส์ เนลสัน

แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-3) : เฟรเดอริก รอนนอฟ -  มาโกโตะ ฮาเซเบะ,  มาร์ติน ฮินเตอเร็กเกอร์, ดาวิด อับราฮัม - ดานนี่ ดา กอสต้า, ฌิบริล ซาว, ฟิลิป คอสติช, เกลสัน แฟร์นานเดส - ไดชิ คามาดะ, กอนชาโล่ ปาเซียนเซีย, อังเดร ซิลวา

อัสตานา เปิดบ้านไร้ตามถล่ม แมนยู 2-1


แมนฯ ยูไนเต็ด ที่นัดนี้จัดดาวรุ่งลงทั้งทีมบุกนำ อัสตานา ไปก่อน 1-0 แต่สุดท้ายโดนเจ้าบ้านยิงแซงคว้าชัยไป 2-1 ในศึก ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2019/20 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม แอล) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2019/20 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม แอล) อัสตานา 2   -   1 แมนฯ ยูไนเต็ด วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562

สนาม : อัสตานา อารีน่า
โรมัน กริกอร์ชุค เทรนเนอร์ อัสตาน่า ยังจัดทัพเน้นส่งชุดใหญ่ลงสนามแม้จะตกรอบแล้ว แกนหลักอย่าง เนนัด เอริช, ยูริ ล็อกวิเนนโก้, อิวาน มาเยฟสกี้ และ มาริน โทมาซอฟ ต่างลงตัวจริง

แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่การันตีการเข้ารอบแล้ว จัดทัพเน้นส่งดาวรุ่งลงสนามแบบยกทีม แนวรุกวาง ทาฮิธ ชอง, เจสซี่ ลินการ์ด และ อังเคล โกเมส คอยปั้นเกม หน้าเป้าจัด เมสัน กรีนวู้ด ล่าตาข่าย

เริ่มเกม เปิดฉากมาเหล่าเยาวชน แมนฯ ยูไนเต็ด เดินเกมบุกใส่ทันที เจสซี่ ลินการ์ด จ่ายให้ เมสัน กรีนวู้ด แต่งหาช่องกดด้วยซ้ายติดเซฟ เนนัด เอริช นายด่านเจ้าถิ่นนาทีที่ 10 แฟนบอลเจ้าถิ่นเงียบทั้งสนามเมื่อโดน แมนฯ ยูไนเต็ด บุกส่องนำ 1-0 ลุค ชอว์ เติมเกมบุกขึ้นมาแล้วไหลบอลเข้ากลางให้ เจสซี่ ลินการ์ด ก่อนจับในจังหวะแรกแล้วกดเรียดหน้าเขตโทษส่งบอลเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม

ยังเป็นทีมเยือนครองเกมบุกใส่แบบคึกคัก เอธาน แลร์ด ลากบอลขึ้นมาจ่ายให้ ลินการ์ด หาช่องสับไกลอีกครั้งแต่หนนี้โด่งข้ามคาน เจ้าบ้านเริ่มตั้งเกมได้และมาทักทายจากจังหวะที่ รูนาร์ ซิกกูร์ยอนส์สัน เก็บบอลไหลต่อให้ ยูริ ล็อกวิเนนโก้ ตั้งป้อมซัดไกลบอลเหินข้ามคานออกไปไกล โอกาสอีกครั้งของเจ้าบ้าน อันโตนิโอ รูคาวิน่า เปิดบอลถึง อับซาล เบย์เซเบคอฟ เลี้ยงตัดเข้าในเขตโทษแล้วกดด้วยซ้ายถูก ลี แกรนท์ ล้มตัวรับเอาไว้ได้

จบ 45 นาทีแรก อัสตาน่า ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 0-1

กลับลงสนามมาสู้กันต่อ อัสตาน่า ลุยหนักมากขึ้น ดอริน โอตาริอู เปิดบอลเข้าเขตโทษ เยฟเกนี่ ปอสต์นิคอฟ สลัดหนีตัวประกบมาโหม่งติดเซฟ ลี แกรนท์ ที่ยังป้องกันได้ทัน เจ้าถิ่นลุยหนักมากยิ่งขึ้น ดอริน โอตาริอู เปิดฟรีคิกเข้ามาจุดนัดพบ อิวาน มาเยฟสกี้ สอดมาโหม่งหลุดกรอบนิดเดียว

หวิดเป็น ปีศาจแดง บุกหนีห่าง ลุค ชอว์ เติมเกมขึ้นมาจ่ายใส่พานให้ ทาฮิธ ชอง ยิงข้ามคานเหลือเชื่อ นาที 55 แฟนบอล อัสตานา ได้เฮหลังจากทีมรักตามตีเสมอ 1-1 โรมัน มูร์ตาซาเยฟ ลากจากฝั่งซ้ายเข้ามาจ่ายให้ ดมิทรี ชอมโก้ จับบอลแล้วพลิกตัวยิงด้วยซ้ายส่งบอลเสียบเสาไหลไม่เหลือ

เจ้าถิ่นได้ใจใหญ่เดินหน้าบุกต่อและมาพลิกแซงนำนาที 62 อันโตนิโอ รูคาวิน่า เติมเกมบุกขึ้นมาแล้วลากไปสุดเส้นหลังก่อนเปิดยัดเข้ากลางถูก ดิ ชอน เบอร์นาร์ด ล้มตัวสกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเอง อัสตาน่า ออกนำ 2-1 ทีมเยือนต่อเกมไม่ติดและหวิดโดนเพิ่ม อิวาน มาเยฟสกี้ จ่ายให้ รูนาร์ ซิกกูร์ยอนส์สัน ตั้งป้อมยิงไกลบอลไปตรงตัว ลี แกรนท์ ล้มตัวรับไม่พลาด

จบเกม อัสตาน่า เปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อัสตาน่า : เนนัด เอริช, อันโตนิโอ รูคาวิน่า, เยฟเกนี่ ปอสต์นิคอฟ, ยูริ ล็อกวิเนนโก้, ดมิทรี ชอมโก้, อับซาล เบย์เซเบคอฟ, รูนาร์ ซิกกูร์ยอนส์สัน, อิวาน มาเยฟสกี้, ดอริน โรตาริอู, โรมัน มูร์ตาซาเยฟ, เซอร์เก คิซห์นิเชนโก้

แมนฯ ยูไนเต็ด : ลี แกรนท์, เอธาน แลร์ด, อักเซล ตวนเซเบ้, ดิ ชอน เบอร์นาร์ด, ลุค ชอว์, เจมส์ การ์เนอร์ (ลาร์กี้ รามาซานี่ น.84), ดีแลน เลวิทท์, ทาฮิธ ชอง (ดีมาน บักไฮล์ น.65), เจสซี่ ลินการ์ด, อังเคล โกเมส (อีธาน กัลเบรธ น.89), เมสัน กรีนวู้ด

สำรองไม่ได้ใช้ : อาร์เนา มาร์ติเนซ, มาเตจ โควาร์, เทเดน เมนกี้, แม็กซ์ เทย์เลอร์

คล็อปป์ โดนหนึ่งเหลือง เหตุเกิดจาก เดินไปบอกกรรมการ


เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ บอกว่าตนโดนใบเหลืองในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดที่เปิดรัง แอนฟิลด์ เสมอกับ นาโปลี 1-1 เมื่อวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จากการที่ไม่พอใจที่ผู้ตัดสินไม่ยอมให้นักเตะเล่นลูกฟรีคิกแบบรวดเร็ว ในนัดดังกล่าวมีช่วงที่ คล็อปป์ ออกอาการโมโหกับการตัดสินของทีมกรรมการหลายหน ซึ่งในช่วงหนึ่ง การ์ลอส เดล เกร์โร่ ผู้ตัดสินที่ 1 ของเกมนี้ก็ชักใบเหลืองให้กุนซือชาวเยอรมัน ก่อนที่สุดท้ายเกมจะจบลงด้วยการแบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน และทำให้ "หงส์แดง" ยังต้องลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายที่ต้องไปเยือน เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก

ซานโช่ ถูกต้นสังกัดสั่งห้ามพูด เกี่ยวกับสถานการณ์ตนเอง


 เจดอน ซานโช่ ปีกดาวรุ่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอดสโมสรแห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน เปิดเผยว่าตนโดนสั่งห้ามพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเอง โดยในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัดที่ ดอร์ทมุนด์ ออกไปแพ้ บาร์เซโลน่า 1-3 เมื่อวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น ลูเซียง ฟาฟร์ จับ ซานโช่ ออกสตาร์ตด้วยการเป็นตัวสำรอง ก่อนจะเปลี่ยนเจ้าตัวลงไปในภายหลัง โดยที่ ฟาฟร์ อ้างว่าเขาทำอย่างนั้นเพราะต้องการเฉพาะตัวจริงที่มีสมาธิอย่างเต็มที่เท่านั้น หลังจบเกมไปแล้วกองทัพนักข่าวกรอสัมภาษณ์ ซานโช่ ในพื้นที่ของสื่อ แต่ดาวเตะทีมชาติอังกฤษกลับตอบว่า "ผมไม่ได้รับอนุญาตให้พูด" ก่อนที่จะเดินตรงไปขึ้นรถบัสทันที


ผอ.กีฬา ปาร์ม่า ยันเงินไม่พอเซ็นสัญญา ซลาตัน อิบราฮิโมวิช



ดานิเอเล่ ฟาจจาโน่ ผู้อำนวยการกีฬา ปาร์ม่า สโมสรดังแห่งศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ยอมรับว่า เป็นความฝันที่ไม่สามารถเอื้อมถึง สำหรับการเซ็นสัญญาคว้าตัว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าซูเปอร์สตาร์ชาวสวีดิช มาร่วมทีม โดย ดานิเอเล่ ฟาจจาโน่ กล่าวว่า
"เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมากๆ และผมเองก็ฝันที่จะเห็นเขาที่ ปาร์ม่า แต่สำหรับวันนี้เราไม่สามารถจ่ายเงินให้เขาได้"


คาร์โล นายใหญ่ นาโปลี ยันแค่ข่าวลือ เชื่อมโยงคุม อาร์เซน่อล


คาร์โล อันเชลอตติ เฮดโค้ชชาวอิตาเลียนของ นาโปลี สโมสรดังแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ยืนยันว่า เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น สำหรับเรื่องที่ตนเตรียมย้ายไปคุมทีม อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนหน้านี้ อันเชลอตติ เคยมีข่าวเกี่ยวโยงกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทว่าสุดท้าย "ไก่เดือยทอง" ได้แต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีมแทน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และหลังจากนั้น "อันเช่" ก็มีข่าวเตรียมเข้ามาเป็นกุนซือ อาร์เซน่อล แทน อูไน เอเมรี่ อีก ซึ่งล่าสุด ยอดกุนซือชาวอิตาเลียนวัย 60 ปี ได้ออกมาเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย ว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น

อุมติตี้ แย้มไม่ปิโอกาสตนเองส่อย้ายหนี บาร์เซโลน่า



ซามูแอล อุมติตี้ เซนเตอร์แบ็กชาวฝรั่งเศสของ บาร์เซโลน่า ยอดสโมสรลูกหนังในศึก ลา ลีกา สเปน แย้มว่า ตนอาจจะพิจารณาถึงเรื่องอำลาถิ่น คัมป์ นู ถ้าหากยังคงเป็นผู้เล่นสำรองของทีมต่อไปเรื่อยๆ อุมติตี้ เคยเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมในช่วง 2 ฤดูกาลแรก ทว่าหลังจากนั้นก็เริ่มหลุดจากทีมตัวจริง แถมมีปัญหาบากเจ็บรบกวนต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ ปราการหลังเพื่อนร่วมชาติ ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมของ เคราร์ด ปีเก้ ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก ซึ่งล่าสุด ดาวเตะดีกรีแชมป์โลกวัย 26 ปี ยอมรับว่า อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ถึงแม้อยากจะอยู่รับใช้ บาร์ซ่า จนถึงวันแขวนสตั๊ดก็ตาม

ลินการ์ด ตุงตาข่ายแรกให้กับทัพ ปีศาจแดง ในรอบ 10 เดือน


เจสซี่ ลินการ์ด ปีกชาวอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใส่ชื่อตัวเองในฐานะผู้ทำประตูได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนหลังจากตะบันลูกหนังสุดงามในช่วงต้นเกมแมตช์ออกไปแพ้  อัสตาน่า สโมสรของคาซัคสถาน 1-2 ในศึก ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มแอล นัด 5 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำหรับประตูดังกล่าวทำให้ ลินการ์ด ยุติสถิติสุดย่ำแย่ของตัวเองซะที  หลังจากที่ครั้งสุดท้ายที่เจ้าตัวมีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดต้องย้อนกลับไปในแมตช์ชนะ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล 3-2 ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อวันที่ 25 มกราคมซึ่งนับนิ้วแล้วก็ประมาณ 10 เดือนเลยทีเดียว


อูไน เอเเมรี่ ยันทัพปืนใหญ่เล่นดีขึ้น แม้พ่ายแฟร้งค์เฟิร์ต


อูไน เอเมรี่ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าทีมของตนเล่นได้ดีขึ้นกว่าหลายนัดที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาจะแพ้ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 1-2 คารัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ เกมนี้เจ้าถิ่นขึ้นนำจากประตูของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก แต่ทีมเยือนมาแซงชนะจาก 2 ลูกของ ไดชิ คามาดะ ในนาทีที่ 55 กับ 64 ทำให้ อาร์เซน่อล ไม่ชนะใคร 7 นัดติดต่อกันในทุกรายการแล้ว โดย อูไน เอเเมรี่ กล่าวว่า

"ผมคิดว่าเราเล่นกันได้ดีขึ้นนะ ในครึ่งแรกเราครองเกมเอาไว้ได้ และเราก็ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ด้วย แถมเราก็ยังสร้างโอกาสทำประตูที่สองได้อีก ในช่วง 5 หรือ 10 นาทีแรกของครึ่งหลังนี่เราเล่นได้น่าพอใจมากๆ"

ชปล. บาเลนเซีย เปิดบ้านไล่ตีเสมอ เชลซี 2-2


ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 5 ของกลุ่ม เอช บาเลนเซีย เปิดรังเมสตาย่าของตัวเองรับมือ เชลซี โดยทั้งสองทีมมี 7 คะแนน เท่ากัน เกมนี้หากใครชนะจะการันตีเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ตทันที
สนาม : เมสตาย่า
เกมนี้ บาเลนเซีย ของ อัลเบิร์ต เซลาเดส ส่ง มักซี่ โกเมซ และโรดริโก้ โมเรโน่ เป็นสองทีเด็ดล่าตาข่าย ขณะที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซี ยังใช้สามแนวรุกเหมือนเดิมทั้ง  วิลเลี่ยน, แทมมี่ อบราฮัม และคริสเตียน พูลิซิช
เปิดฉากมาแค่ 2 นาทีแรก “สิงห์บลูส์” ได้ทักทายก่อน รีซ เจมส์ ครอสบอลมาให้ วิลเลี่ยน ขึ้นโขกบริเวณกรอบ 6 หลาแต่หลุดกรอบออกไป
กลายเป็นทีมเยือนที่เปิดเกมรุกเข้าใส่มากกว่า นาที 14 ได้ลุ้นอีกครั้ง จากบอลครอสของ รีซ เจมส์ เหมือนเดิมคราวนี้ปาดเข้าไปในกรอบ6หลาให้ แทมมี่ อบราฮัม พุ่งมายิงด้วยขวาแต่บอลออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 19 ไอ้ค้างคาวทิ้งโอกาสได้ประตูขึ้นนำหลัง โรดริโก้ โมเรโน่ พาบอลควบเข้าไปในกรอบ แล้วปาดเลียดมาหน้าประตู มักซี่ โกเมซ ปรี่มาเตรียมยิงโล่งๆ ทว่าบอลดันย้อนหลังเลยปากประตูไปแบบน่าเสียดาย
นาที 36 เชลซี เสียโอกาสพังประตูขึ้นนำเช่นกัน หลัง รีซ เจมส์ ครอสไปเสาแรกให้ อบรมฮัม บอลไปติดบล็อคแข้งเจ้าถิ่นก่อนมาเข้าทาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ วิ่งมายิงด้วยขวาแต่บอลเหินโด่งข้ามคานไป
อีกสองนาทีถัดมา ก็องเต้ ดีดไปหน้าประตูให้ แทมมี่ อบราฮัม ดีดไม่เต็มเท้าแต่ยังเข้ากรอบจน ซิลเลสเซ่น ต้องเหินปัดปลายนิ้วออกไป กระนั้น นาที 40 กลายเป็น บาเลนเซีย ที่กระทุ้งประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ บอลจากด้านขวา โรดริโก้ โมเรโน่ ล็อคเข้าซ้ายก่อนเปิดไปในกรอบให้ การ์ลอส โซแลร์ สอดมายิงด้วยขวา บอลผ่านมือ เกป้า เข้าประตูไป
แต่เจ้าบ้านดีใจไม่นาน นาที 42 เชลซี มาทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้ทันควัน จากจังหวะที่แนวรับเจ้าบ้านสกัดบอลไม่ขาด มาเตโอ โควาซิช เก็บบอลได้ก่อนซัดเปรี้ยงด้วยขวาระยะกว่า 22 หลาบอลพุ่งเลียดเบียดโคนเสาแรกเข้าไป และเป็นประตูแรกที่ยิงได้ในสีเสื้อของเชลซี
ช่วงทดเจ็บ แทมมี่ อบรมฮัม มีอาการเจ็บหลังปะทะกับ เอเซเกล การาย จนต้องพยุงออกมาดูอาการก่อนจะเดินต่อไม่ไหวจนต้องนอนเปลสนามออกมา
จบครึ่งแรก บาเลนเซีย เสมอกับ เชลซี 1-1
 
ครึ่งหลัง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต้องเปลี่ยนเอา มิชี่ บาตชูอายี่ ลงมาเล่นแทน แทมมี่ อบราอัม ที่เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว
นาที 50 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ครอสบอลยาวไปในกรอบให้ คูร์ท ซูม่า โขกชงต่อให้ คริสเตียน พูลิซิช หลุดเข้าไปจิ้มบอลผ่านตัว ซิลเลสเซ่น เข้าไป ซึ่งจังหวะนี้ต้องใช้ VAR เช็กว่าได้ประตูหรือไม่? ซึ่งปรากฎว่า พูริซิช ไม่ล้ำหน้าเนื่องจากมียืนอยู่ในแนวเดียวกับขาของ เอเซเกล การาย ทำให้ทัพ “สิงห์บลูส์” เฮลั่นพร้อมแซงขึ้นนำ 2-1
นาที 57 อันเดรียส คริสเตนเซ่น เคลียร์บอลไม่ขาด บอลเลยมาเข้าทาง โรดริโก้ โมเรโน่ ก่อนที่หัวหอกทีมชาติสเปนจะยกบอลข้ามหัว เกป้า แต่บอลสูงไปเลยตกหลังตาข่าย
นาที 63 แฟนเจ้าบ้านมาเฮกันลั่นสนาม เมื่อ โฆเซ่ กาย่า เรียกจุดโทษให้ทีมได้หลังโดน จอร์จินโญ่ ฟาวล์ในกรอบเตโทษ ทว่า ดานี่ ปาเรโฆ กัปตันทีมมือสังหารของทีมดันยิงไปติดเซฟของ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ช่วยให้สิงห์บลูส์ยังนำอยู่ 2-1
แต่ นาที 82 คราวนี้ บาเลนเซีย มาทวงประตูตีเสมอ 2-2 ได้อย่างสุดเฮง หลัง ดาเนี่ยล วาสส์ แนวรับของเจ้าถิ่นพยายามครอสบอลไปหน้าปากประตู ทว่าเปิดผิดเหลี่ยมบอลลอยข้ามหัว เกป้า ก่อนบอลมุดเข้ากรอบกระทบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม
นาทีสุดท้ายก่อนทดเจ็บ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เปิดเข้ากลางให้ มิชี่ บาตชูอายี่ ยิงด้วยซ้ายกลางประตูแต่บอลยังไม่ผ่านตัว ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ช่วยเซฟไว้ได้
จบการแข่งขัน บาเลนเซีย เสมอกับ เชลซี แบบสนุก 2-2 แบ่งแต้มกันไปทำให้ทั้งสองทีมมี 8 คะแนนเท่ากัน
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
บาเลนเซีย (4-4-2) : ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น – ฆัวเม่ คอสต้า (เควิน กาแมร์โร่ น.87), เอเซเกล การาย, กาเบรียล เปาลิสต้า, โฆเซ่ กาย่า – การ์ลอส โซเลร์ (อี คัง อิน น.78) , ดานี่ ปาเรโฆ, ดาเนี่ยล วาสส์, เฟร์ราน ตอร์เรส (ฟรานซิส โกเกอแล็ง น.21) – มักซี่ โกเมซ, โรดริโก้ โมเรโน่
เทรนเนอร์ : อัลเบิร์ต เซลาเดส
เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, คูร์ท ซูม่า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, รีซ เจมส์ – มาเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ่ (เอแมร์ซอน พัลมิเอรี่ น.82), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ – วิลเลี่ยน (มิชี่ บาตชูอายี่ น.46), แทมมี่ อบราฮัม, คริสเตียน พูลิซิช
เทรนเนอร์ : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

บาร์ซ่า เปิดบ้านถล่มยับ ดอร์ทมุน 3-1


ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวยิง บาร์เซโลน่า ฉลองการรับใช้สโมสรครบ 700 นัดแบบสวยหรูหลัง ทั้งยิง-ทั้งจ่าย พาทีมยำ ดอร์ทมุนด์ 3-1 คว้า 3 แต้มสำคัญมี 11 คะแนน ซิวแชมป์กลุ่มลอยลำผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายสำเร็จ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ) คืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : คัมป์ นู
เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า พาทีมเสมอสลาเวีย ปราก 0-0 ในนัด 4 ก่อนชนะเลกาเนส 2-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 3 นัดติด

เริ่มเกม เพียงแค่ไม่ถึงนาทีแรก “เสือเหลือง” เกือบบุกมานำจากจังหวะจ่ายบอลของ ยูเลี่ยน บรันด์ท และเป็น อชราฟ ฮาคิมี่ วิ่งสอดขึ้นมาในกรอบเขตโทษก่อนปาดเข้าในให้ นิโก้ ชูลซ์ ล้มตัวยิงไปติดบล็อค มาร์ค-อังเดร แตร์ ชเตเก้น
10 นาทีผ่านไป กลายเป็น บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายครองเกมมากกว่าได้โอกาสลุ้นจากลูกยิงของ อีวาน ราคิติช และ ฟรีคิก ระยะโปรดของ ลิโอเนล เมสซี่ แต่ติดบล็อคทั้งหมด นาทีที่ 22 “เจ้าบุญทุ่ม”  พลาดประตูออกนำจากจังหวะตัดบอลกลางสนามของ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนควบขึ้นมารับบอลชิ่งจาก ลิโอเนล เมสซี่ หลุดเข้าไปส่งบอลซุกก้นตาข่าย แต่น่าเสียดายเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
นาทีต่อมา ทีมเยือน พลาดโอกาสทองเป็น อชราฟ ฮาคิมี่ หลุดกับดักล้ำหน้าเติมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ นิโก้ ชูลซ์ ซัดแบบไม่มีตัวประกบไปเข้ามือ มาร์ค-อังเดร แตร์ ชเตเก้น เหลือเชื่อ เอร์เนสโต บัลเบร์เด ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวตั่งแต่นาทีที่ 26 หลัง อุสมาน เดมเบเล่ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง อองตวน กรีซมันน์ ลงสนามแทน
แต่แล้วนาทีที่ 30 เจ้าถิ่น ทะยานออกนำจนได้จากจังหวะบอลชุลมุน ก่อนมาเข้าทาง ลิโอเนล เมสซี่ แทงเร็วให้ หลุยส์ ซัวเรซ หลุดเข้าไปยิงลอดขา โรมัน บือร์กี้ เข้าไป บาร์เซโลน่า 1 ดอร์ทมุนด์ 0 กระหน่ำชุดใหญ่ ลิโอเนล เมสซี่ เกือบบวกสกอร์เพิ่มให้ทีมทันทีหลังได้จังหวะซัดด้วยซ้ายแต่ไปตรงตัว โรมัน บือร์กี้
และเป็น อองตวน กรีซมันน์ เติมขึ้นมารับบอลจาก เมสซี่ แต่เปิดไม่ดีเสียโอกาสไป นาทีที่ 33 สุดท้าย “เจ้าบุญทุ่ม” มาได้ประตูที่สองคราวนี้เป็นความผิดพลาดของ  มัตส์ ฮุมเมลส์ จ่ายยากไปติด เฟร็งกี้ เดอ ยอง ไหลมาเข้าเท้า หลุยส์ ซัวเรซ ทำชิ่งให้ ลิโอเนล เมสซี่ หลุดไปซัดด้วยซ้ายไม่มีเหลือ
หมดครึ่งเวลาแรก บาร์เซโลน่า 2 ดอร์ทมุนด์ 0
ครึ่งหลัง บาร์เซโลน่า ฉวยโอกาสเข้าทำทันทีเกือบทำสำเร็จจาก อองตวน กรีซมันน์ แต่เสียดายจังหวะยิงเบาไปเข้ามือ โรมัน บือร์กี้ รับสบาย นาทีที่ 51 ลิโอเนล เมสซี่ ต้องมาเสียใบเหลืองแบบไม่น่าเสียหลังหลุดเข้าไประหว่าง โรมัน บือร์กี้ และ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ แต่เจ้าตัวไม่เลือกพยายามเล่นบอลตัดสินใจพุ่งล้ม
ต่อมานาทีที่ 60 “เสือเหลือง” เกือบตีไข่แตกจากจังหวะแทงออกซ้ายของ ยูเลี่ยน บรันด์ท ให้ จาดอน ซานโช่ ก่อนวิ่งตามช่องมาทิ่มบอลไปติดเซฟ มาร์ค-อังเดร แตร์ ชเตเก้น  นาทีที่ 67 “เจ้าบุญทุ่ม” หนีห่างออกไปอีกจากการพาบอลสวนกลับของ ลิโอเนล เมสซี่ ก่อนแทงบอลตัดหลัง ลูคัส พิสซ์เช็ค ให้ อองตวน กรีซมันน์ หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายไม่มีพลาด บาร์เซโลน่า 3 ดอร์ทมุนด์ 0
ต่อมานาทีที่ 75 ลิโอเนล เมสซี่ ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟริคิกทางฝั่งขวาก่อนตัดสินใจกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลพุ่งไปเช็ดคานบนออกหลังไป ก่อนหมดเวลา 15 นาที ทีมเยือน ไล่มาจนได้จากความสามารถเฉพาะตัวของ จาดอน ซานโช่ โชว์หมุนตัวคลึงบอลก่อนตะบันด้วยขวาเต็มข้อ ตุงตาข่าย สุดสวย บาร์เซโลน่า 3 ดอร์ทมุนด์ 1
ท้ายเกม จาดอน ซานโช่ เกือบซัดประตูที่สองของตัวเองหลังสอดมารับบอลดีดจาก ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ก่อนยิงด้วยขวาไปติดปลายมือ มาร์ค-อังเดร แตร์ ชเตเก้น ไปชนเสาเด้งออกมา หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม
จบเกม บาร์เซโลน่า 3 ดอร์ทมุนด์ 1

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง
บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค-อังเดร แตร์ ชเตเก้น – เซร์จี้ โรเบร์โต้, กเลมงต์ ล็องก์เล่ต์, ซามูแอล อุมติตี้, จูเนียร์ ฟีร์โป้ – เฟร็งกี้ เดอ ยอง, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อีวาน ราคิติช (อาร์ตูโร่ วิดัล น.78) – ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ (มูสซา วาเก น.91), อุสมาน เดมเบเล่ (อองตวน กรีซมันน์ น.26)
เทรนเนอร์ : เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ 
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : โรมัน บือร์กี้ – ลูคัส พิสซ์เช็ค (ดาน-อาแซล ซากาดู น.76), มานูเอล อคานจี, มัตส์ ฮุมเมลส์, นิโก้ ชูลซ์ (จาดอน ซานโช่ น.46)- อักเซล วิตเซล, ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล (มาริโอ เกิทเซ่น.85) – อชราฟ ฮาคิมี่, ยูเลี่ยน บรันด์ท, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ – มาร์โก รอยส์
เทรนเนอร์ : ลูเซียง ฟาฟร์